“ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่งรุ่นเฟเธอร์เวต (155 ป.) ออกปากชม “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” โดยยกให้เป็นนักสู้หญิง ที่เก่งที่สุดทั้งยังในกติกามวยไทยรวมทั้งการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ชนิดหาตัวจับยากในวงการกีฬาการต่อสู้ของไทย
“ซุปเปอร์บอน”และ “แสตมป์” ทั้งสองรู้จักมักคุ้นกันดี ในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ ซึ่งซุปเปอร์บอน ก็เป็นหนึ่งคน ที่ได้ติดตามการ แข่งขันของนักสู้ รุ่นน้องคนนี้มาตลอด จึงได้มองเห็นพัฒนาการของ “แสตมป์” ตั้งแต่เข้ามาโชว์ผลงานใน ONE ครั้งแรก
กระทั่งสร้าง ประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์โลก ONE มวยไทยและก็คิกบ็อกชิ่ง รุ่นอะตอมเวต ( 115 ป.) เรื่อยมาจนกระทั่งครั้งที่ “แสตมป์” มุ่งหน้าในสาย MMA รวมทั้งสามารถ คว้าแชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิงสำเร็จในปี 2564
โดย ซุปเปอร์บอน ถึงกับเอ่ยปากชมว่า “แสตมป์” คือตัวท็อป สุดจากบรรดานักกีฬา ต่อสู้หญิงชาวไทย
“น้องแสตมป์ เก่งขึ้นมากจากไฟต์แรกใน ONE มีพัฒนาการที่ดีมากทั้ง มวยไทยและก็ MMA ผมเห็นว่าในประเทศไทยตอนนี้ แสตมป์ เก่งที่สุดทั้งยังในกีฬา MMA รวมทั้งมวยไทย สำหรับ นักมวยหญิง เขาก็เทียบเท่า ระดับโลกแล้วจริง ๆ ส่วนในสาย MMA ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน เขามีโอกาสที่จะเป็นแชมป์โลก ได้ครับ ถ้าหากเจอ เเองเจลา อีกครั้งผมว่าชนะได้ครับ”
ถึงแม้เส้นทางตอนนี้ “แสตมป์” จะตรงดิ่ง ไปที่บัลลังก์ MMA รุ่นอะตอมเวต แต่เธอก็มีแผนการที่จะกลับมาทวงเข็มขัดมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งที่เคยครองคืนกลับมา ซึ่งซุปเปอร์บอน ก็ได้รับรู้ถึงความตั้งใจของ “แสตมป์” ในเรื่องนี้เหมือนกันโดยมีความเห็นในประเด็นนี้ว่า
“ผมคิดว่าน้องทำได้ครับ เพราะเขาเคยเป็นแชมป์ทั้งสองกติกามาแล้ว ประสบการณ์การชิงแชมป์โลกก็มีแล้ว แค่ต้องกลับมาทบทวนมวยไทย แล้วก็คิกบ็อกซิ่งอีกหน่อย ตอนที่ แสตมป์ เสียแชมป์ เป็นเนื่องจากน้องอาจจะโฟกัสหลายทางเกินไป ทำให้ไม่ทราบจะมุ่งไปทางไหนดี ผมจึงมองว่าถ้าหากน้องอยากได้เข็มขัดเส้นไหนก็ตามจะต้องจุดโฟกัสฝึกซ้อมเป็นอย่างๆไปครับ”
อย่างไรก็ตาม “แสตมป์” มีคิวเปิดศึกลูกผสมหญิงครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ONE โดยใช้กติกามวยไทย x การต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) กับ “อนิสสา เม็กเซน” ในศึก ONE FIGHT NIGHT 6 ซึ่งเป็นโอกาสที่ “แสตมป์” จะได้โชว์ความชำนาญฝีมือ ในทั้งสองกติกา ต่อหน้าแฟนกีฬาชาวไทย
โดยศึกนี้ จะถ่ายทอดสดจาก อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 14 ม.ค.66 ซึ่งเป็นรายการเดียวกับที่ ซุปเปอร์บอนจะลงป้องแชมป์กับผู้ท้าชิง “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” เหมือนกัน
แฟนกีฬาที่อยากเชียร์ซุปเปอร์บอน แล้วก็ “แสตมป์” ถึงขอบ สังเวียนกับชมรายการ ต่อสู้สุดยอด ที่ยกพลมาจัดในเมืองไทย
หนาวไปอีกทั้งแรงค์กิง “ซุปเปอร์บอน” ลั่นต้องการข้ามสายชิงเข็มขัดมวยไทย
“ซุปเปอร์บอน” เล็งล่าเข็มขัดแชมป์โลกมวยไทยเป็นเส้นที่สอง ประกาศกร้าว ตอนนี้สู้กับใครก็ได้ ไม่กลัวใครทั้งหมด
เรียกได้ว่าบัลลังก์มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต อาจมีสั่นสะเทือนเมื่อตัวพ่อคิกบ็อกซิ่งซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน เอ่ยปาก อยากล่าเข็มขัด มาประดับเอวเป็นเส้นที่สอง โดยตั้งใจจะสถาปนาตน ขึ้นเป็นแชมป์โลกสองกติกา คิกบ็อกซิ่ง – มวยไทย
หลังจาก ซุปเปอร์บอนพิสูจน์ตนเองได้แล้วว่า เขาคือนักชก ที่เก่งที่สุดของคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ด้วยการปราบ อดีตเบอร์หนึ่ง ของโลกมาถึง 3 ราย ทั้ง สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง, จอร์จิโอ เปโตรเซียน และล่าสุด มารัต กริกอเรียน จากศึก ONE X เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
เจ้าตัวก็เปิดเผยว่ายังมี เป้าหมาย อีกหลายอย่าง ต่อไปหลังจากนี้ ซึ่งนอกจากความตั้งใจ จะกวาดคู่แข่ง ในแรงค์กิง ONE คิกบ็อกซิ่ง ให้เกลี้ยงแผงแล้ว ยังมองข้าม ช็อตถึงการข้าม สายไปชิงแชมป์โลกมวยไทยด้วย
ถ้าหันมาดูที่สายมวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ขณะนี้มี “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” ครองบัลลังก์อยู่ ส่วนซุปเปอร์บอนเองก็ มีรายนามรั้งอยู่อันดับสอง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีคู่แข็ง สายแข็งทั้งยัง จามาล ยูซูพอฟ, โจ ณัฐวุฒิ, สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง และก็ เซมี ซานา ครองตำแหน่งจ่าฝูงอยู่ แถมยังมีน้องใหม่อย่าง ตะวันฉาย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม ที่ตัดสินใจขยับน้ำหนักขึ้นมาชกในรุ่นนี้ด้วย
แต่เมื่อถามว่าซุปเปอร์บอน เกรงกลัว
คู่แข่งคนหนึ่ง คนใด ในรุ่นนี้บ้างถ้าเกิดต้องการ ไต่บัลลังก์แชมป์ เขาก็ตอบอย่างมั่นใจไม่ลังเล
“ผมว่าทุกคนในรุ่นนี้ต้องกลัวผมมากกว่านะครับ ณ ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกว่าพวกเขาทั้งหมด กังวลที่ผมจะข้ามไปชกมวยไทยด้วยซ้ำไป ผมมีความคิดว่าผมไม่ต้อง กลัวใครในนั้นเลยครับ”
“การข้ามไปชิงแชมป์โลก มวยไทย มันเป็นความท้าทาย ของผม และทุกคนในแรงค์กิง รุ่นนี้ต้องกลัวผมแน่นอนครับ”
ที่ผ่านมา มีนักกีฬาไทยเพียงแค่สองคนคือ “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” และ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ที่สามารถสร้าง ประวัติศาสตร์ การเป็นแชมป์โลก ONE สองประเภทกีฬา
แต่เมื่อ ซุปเปอร์บอน กล้าประกาศกร้าวขนาดนี้ แฟนกีฬาชาวไทย อาจได้ฉลองแชมป์โลก ONE สองกติกาคนใหม่ ก็เป็นได้ คงต้องรอดูกันไปยาว ๆ